• SQL คือ ภาษาที่ใช้ในการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) ใช้ในการสร้าง และ จัดการ หรือการสืบค้นข้อมูลที่มีเป็นจำนวนมาก ของฐานข้อมูล ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ได้ในทุกๆ ค่ายของฐานข้อมูลต่างๆ เช่น SQL Server, MySQL, PostgreSQL หรือแม้แต่ Microsoft Access ก็จะใช้ภาษานี้ในการจัดการข้อมูล
  • RELATIONAL DATABASE เป็นรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของตารางซึ่งประกอบด้วยแถวและคอลัมน์ โดยที่แต่ละตาราง จะมีความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลอยู่ โดยใน 1 ฐานข้อมูล จะประกอบด้วยหลายๆตารางมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของข้อมูลนั้น แต่ตารางต้องมีความสัมพันธ์กัน 

คำสั่งหลักๆของ ภาษา SQL ประกอบด้วยสองส่วนหลักๆคือ

  1. Data Definition Language (DDL) การสร้างหรือปรับปรุงโครงสร้างของตารางในฐานข้อมูล
  2. Data Manipulation Language (DML) การค้นหา การเพิ่มข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล การลบข้อมูล ในตาราง Insert/delete/update tables
    • INSERT คือคำสั่งสำหรับการเพิ่มข้อมูลลงไปในตารางข้อมูล  โดยมีคำสั่งดังนี้

           INSERT INTO <ชื่อตาราง> VALUES ( <ค่าข้อมูล>, <ค่าข้อมูล>, … N )
           เช่น ให้เพิ่มข้อมูลชื่อประเทศเวียดนามลงในตาราง Country
           INSERT INTO Country VALUES(8,’Vietname’)

    • UPDATE คือคำสั่งสำหรับการปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลในตารางข้อมูล โดยสามารถใช้งานรวมกับคำสั่ง WHERE เพื่อสร้างเงื่อนไขในการแก้ไขข้อมูล รูปแบบคำสั่ง คือ
           UPDATE <ชื่อตาราง> SET <ชื่อคอลัมน์> = <ค่าข้อมูล> WHERE <เงื่อนไข>
      เช่น ให้แก้ชื่อประเทศเวียดนามจาก ‘Vietname’ เป็น ‘Vietnam’ แก้ชื่อประเทศเวียดนามให้ถูกต้อง
      UPDATE country SET CountryName = ‘Vietnam’ WHERE CountryName = Vietname
      หรือ เราสามารถใช้คำสั่งอีกแบบได้ดังนี้
      UPDATE country SET CountryName = ‘Vietnam’ WHERE Cid = 8

    • DELETE FROM Country WHERE Cid=7
      DELETE คือคำสั่งในการลบข้อมูลในตารางข้อมูล โดยสามารถใช้งานรวมกับคำสั่ง WHERE เพื่อสร้างเงื่อนไขสำหรับการลบข้อมูล
      DELETE FROM <ชื่อตาราง> WHERE <เงื่อนไข>
      เช่น ให้ลบประเทศ Thailand จากตารางจะใช้คำสั่งว่า
      DELETE FROM Country WHERE Cid=
      ข้อมูลในแถวที่ มี Cid= 7 จะโดนลบออกจากตาราง

    • SELECT คือคำสั่งสำหรับสืบค้นข้อมูล หรือค้นหาข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในตาราง ใช้งานรวมกับคำสั่ง WHERE เพื่อใช้ในการสร้างเงื่อนไขในการแสดงผลข้อมูล โดยมีรูปแบบคำสั่ง คือ

      SELECT <คอลัมน์> FROM <ชื่อตาราง> WHERE <เงื่อนไข>

      จากตารางตัวอย่างให้แสดงข้อมูลผลจับของสัตว์น้ำทุกชนิดในปี 2020 ของประเทศไทย

      select * from Production INNER JOIN Country on Production.cid=Country.cid INNER JOIN Fishspecies on Production.spid = Fishspecies.spid where country=‘Thailand’ and year=‘2020

ถ้าเราไม่ใช่ผู้ที่เป็นคนสร้าง database เราอาจจะไม่รู้ได้เลยว่า ในแต่ละข้อมูลนั้นถูกกำหนดด้วย id อะไรไว้เช่นในตาราง Production คอลัมน์ cid เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ารหัสไหนคือประเทศอะไร ดังนั้นเราจะต้องทำการ join ตารางก่อนให้รู้ว่าตารางมีความสัมพันธ์กันด้วยการใช้คำสั่ง inner join เพื่อให้สามารถกำหนดเงื่อนไขในการเรียกดูข้อมูลได้ รูปแบบคือ

Table1 INNER JOIN table2 ON table1.columnname1= table2.columnName2;