จริงๆแล้ว “ปลาข้าวสาร”

ที่วางขายในตลาดนั้นเป็นชื่อสายพันธุ์ปลาที่ไม่มีอยู่จริงปลาข้าวสารส่วนมากคือตัวอ่อนของปลากะตัก ที่ถูกจับมาด้วยเครื่องมือประมงหลัก 4 ชนิด ได้แก่ 1. อวนล้อมจับปลากะตักกลางวัน 2. อวนล้อมจับปลากะตักที่ใช้แสงไฟล่อ 3. อวนช้อนหรืออวนยกปลากะตักที่ใช้แสงไฟล่อ 4. อวนครอบปลากะตักที่ใช้แสงไฟล่ ซึ่งเป็นเครื่องมือมืที่ทําลายถิ่นที่อยู่ของสัตว์น้ําวัยอ่อน ดังนั้นการกินปลาข้าวสารจึงเป็นเหมือนการสนับสนุนให้ทําประมงลูกปลากะตัก และลูกปลาชนิดนิ อื่นๆ เกินขนาด จึงมีแนวโน้มทําให้ทรัพยากรสัตว์น้ําเศรฐกิจลดลงในระยะยาว

ลักษณะของลูกปลากะตัก

เป็นปลาผิวผิน้ําขนาดเล็ก มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ปลาไส้ตัน หัวอ่อน มะลิ ใบไผ่ จิ๊งจั๊ง จัดอยู่ในวงศ์ Engraulidae ถูกจําแนกออกเป็น 2 สกุล คือ 1. ปลากะตักตัวแบน (Stolephorus spp.)
2. ปลากะตักตัวกลม (Encrasicholina spp.) ปลากะตักที่พบในน่านน้ําไทยมี 11 มีชนิด พบได้ทั่วไปทั้ง
อ่าวไทย 10 ชนิด และ ฝั่งอันดามัน 6 ชนิด (นิรนิชา สองแก้ว และคณะ, 2550)

ลูกปลาวัยอ่อนมีลักษณะลําตัวเรียวยาวเป็นทรงกระบอก ในขณะที่ส่วนหัวแบนเล็กน้อย ความยาวทั้งหมดของลูกปลาในวงศ์นี้ มีช่วงตั้งแต่ 3.22 ถึง 6.30 มิลมิลิเมตร โดยมีค่าเฉลี่ย 4.72 มิลมิลิเมตร และ ความยาวมาตรฐานที่วัดได้มีช่วงตั้งแต่ 3.10 ถึง 6.09 มิลมิลิเมตรทางเดินอาหาร (Gut) มีลักษณะยาวและตรง ปากมีขนาดค่อนข้างเล็กและอยู่ค่อนไปทางด้านล่าง ดวงตามีขนาดเล็กถึงปานกลาง สีของลําตัวจางมาก นอกจากนี้ยังมีเซลล์เม็ดสีดํา (Melanophores) ที่ปลายของแกนค้ำจุนร่างกาย (Notochord) (Rezhagolinejad S., 2016)